คลายข้อสงสัยติด Solar Rooftop บ้านอยู่อาศัย ลดค่าไฟแพง

หากใครคิดจะติด Solar Rooftop ลองอ่านก่อนตัดสินใจ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน คลายข้อสงสัยเกี่ยวกับการติด Solar Rooftop บ้านอยู่อาศัย

กรมพัฒนาพลังงานทดแทนฯและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) คลายข้อสงสัย 10 คำถามเกี่ยวกับการติด Solar Rooftop บ้านอยู่อาศัย ช่วยลดค่าไฟฟ้าในช่วงหน้าร้อน หลังมีประชาชนให้ความสนใจติดตั้งโซลาร์บนหลังคาเพิ่มขึ้น


บ้านของเราเหมาะกับการติดตั้ง Solar Rooftop หรือไม่ ?

  • บ้านมีคนอยู่ช่วงเวลากลางวัน หรือเป็น Home Office, ร้านค้า, ร้านกาแฟ จะได้ใช้ไฟฟ้าจากโซลาร์เต็มที่ น่าติดตั้งใช้งาน คุ้มค่าคืนทุนไว
  • มีการใช้อุปกรณ์ที่กินไฟมาก “แอร์ ตู้เย็น ตู้แช่”
ข้อแนะนำ : ไฟฟ้าจากโซลาร์ผลิตมาใช้ทันทีจะดีที่สุด และนิยมติดตั้งเป็นระบบที่สามารถใช้งานร่วมกับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าได้


หลังคาบ้านเราเหมาะกับการติดตั้งหรือไม่ ?

  • บ้านต้องมีโครงสร้างหลังคาแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ดี
  • ไม่มีเงาต้นไม้ใหญ่ หรืออาคารรอบข้างบดบังแสงแดด
ข้อแนะนำ : หลังคามีความลาดเอียงประมาณ 15 องศาและหันไปทางทิศใต้ จะได้ผลิตไฟได้ดีที่สุด


ติดตั้งขนาดเท่าไรจึงจะเหมาะสม ?

  • ติดตั้งขนาด 3 กิโลวัตต์ เหมาะกับบ้านที่ใช้ แอร์เบอร์ 5 แบบ 1 ดาว 12,000 BTU 2 เครื่อง + ตู้เย็น 12 คิว + หลอดไฟ
  • ติดตั้งขนาด 5 กิโลวัตต์ เหมาะกับบ้านที่ใช้ แอร์เบอร์ 5 แบบ 1 ดาว 12,000 BTU 4 เครื่อง + ตู้เย็น 12 คิว 2 เครื่อง + หลอดไฟ
  • ขนาดที่นิยมติดตั้ง 3, 5, 10 กิโลวัตต์ เลือกได้ตามขนาด/จำนวนอุปกรณ์ที่ใช้
ข้อแนะนำ : หากเลือกขนาดใหญ่เกินความจำเป็น ต้องลงทุนสูงและคืนทุนช้า

พื้นที่หลังคาที่ใช้ติดตั้ง

  • โซลาร์เซลล์ 1 กิโลวัตต์ ใช้พื้นที่ประมาณ 4-5 ตารางเมตร เช่น ระบบขนาด 3 กิโลวัตต์ ใช้พื้นที่ประมาณ 12-15 ตารางเมตร
  • ลักษณะ/ประเภทกระเบื้องหลังคาแบบต่างๆ ควรแข็งแรงเพียงพอที่จะติดตั้งแผงโซลาร์ได้
ข้อแนะนำ : หลังคาบ้านส่วนใหญ่มีพื้นที่เพียงพอต่อการติดตั้งอยู่แล้ว

พื้นที่หลังคาที่ใช้ติดตั้ง

  • ใช้งบประมาณ 40,000 - 45,000 บาทต่อ 1 กิโลวัตต์ที่ติดตั้ง มีระยะเวลาคืนทุนโดยประมาณ 6 ปี
  • ควรสอบถามราคาจากผู้ให้บริการติดตั้งหลายราย เปรียบเทียบกันก่อนตัดสินใจ
  • เปรียบเทียบบริการหลังการขาย เช่น การตรวจสอบอุปกรณ์ประจำปี, การทำความสะอาดแผง, อายุการรับประกันสินค้า
ข้อแนะนำ : หากลงทุนติดตั้งขนาดที่ใหญ่ขึ้น จะทำให้ค่าลงทุนต่อ 1 กิโลวัตต์ถูกลง

ค่าไฟฟ้าที่จะประหยัดได้และการคืนทุน คิดอย่างไร ?

  • 1 กิโลวัตต์ ผลิตไฟฟ้าใช้ประมาณวันละ 4 หน่วย หรือประมาณ 120 หน่วยต่อเดือน
  • ยกตัวอย่าง ระบบขนาด 3 กิโลวัตต์ จะผลิตไฟได้ประมาณวันละ 12 หน่วย (หรือ 360 หน่วยต่อเดือน) หากราคาค่าไฟหน่วยละ 5 บาท จะประหยัดค่าไฟได้ 1,800 บาทต่อเดือน (หรือปีละ 21,600 บาท)
  • คิดระยะเวลาคืนทุน จากการลงทุนขนาด 3 กิโลวัตต์ ค่าลงทุนประมาณ 120,000 - 135,000 บาท ประหยัดได้ปีละ 21,600 บาท ดังนั้นมีระยะเวลาคืนทุนประมาณ 6 ปี
ข้อแนะนำ : หากสามารถใช้ไฟฟ้าจาก Solar Rooftop ได้เต็มกำลังที่ผลิตได้ และใช้แผงที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นจะคืนทุนได้เร็วขึ้น

ราคาต้นทุนไฟฟ้าจากระบบ Solar Rooftop ตลอดอายุการใช้งาน

  • ยกตัวอย่าง ระบบขนาด 3 กิโลวัตต์ หากคิดตลอดอายุระบบ Solar Rooftop 15-20 ปี จะผลิตไฟได้ 360 หน่วยต่อเดือน x 12 เดือน x 15 ปี = 64,800 หน่วย เมื่อคิดค่าลงทุน 120,000 - 135,000 บาท จะมีราคาต้นทุนประมาณ 2 บาทต่อหน่วย
ข้อแนะนำ : ต้นทุนต่อหน่วยข้างต้น ยังไม่รวมค่าบำรุงรักษารายปี เช่น การล้างแผง การตรวจสอบรายปี อาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้นอีกประมาณ 10%

อยากติดตั้งต้องเริ่มอย่างไร ?

  • เลือกผู้ให้บริการติดตั้ง ปัจจุบันมีผู้ให้บริการจำนวนมาก ทั้งการไฟฟ้าและบริษัทที่ให้บริการติดตั้ง Solar Rooftop
  • การขออนุญาตต่างๆ ส่วนใหญ่ผู้ให้บริการติดตั้งจะเป็นผู้ดำเนินการให้
  • ผู้ให้บริการเข้าสำรวจพื้นที่ติดตั้ง ออกแบบ และเข้าดำเนินการติดตั้ง โดยทั่วไปใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน
ข้อแนะนำ : ควรเลือกผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ อาจพิจารณาจากประสบการณ์ ผลงานที่ผ่านมา คุณภาพ การให้บริการ บริการหลังการขาย รวมถึงการรับประกันสินค้า

เลือกอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานและมีคุณภาพได้อย่างไร ?

  • แผงโซลาร์เซลล์ ควรได้รับมาตรฐาน มอก.61215 หรือมาตรฐาน IEC 61215 เป็นอย่างน้อย
  • อุปกรณ์อินเวอร์เตอร์ (Inverter) สามารถตรวจสอบรายชื่อรุ่นที่การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคให้การรับรอง ได้ทางเว็บไซต์ของการไฟฟ้า
  • ศึกษาเปรียบเทียบการเลือกใช้อุปกรณ์ของผู้ให้บริการติดตั้งแต่ละราย เพื่อประกอบการพิจารณา
ข้อแนะนำ : สามารถศึกษาข้อกำหนดการติดตั้ง Solar Rooftop และการเชื่อมต่อระบบของแต่ละการไฟฟ้า ได้จากเว็บไซต์ของ กฟน. และ กฟภ.

การขออนุญาตต่างๆ ต้องทำอย่างไร ?

  • ขอใบอนุญาตเกี่ยวกับการก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคาร กับหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น ใช้เวลาดำเนินการ 45 วัน
  • ยื่นแบบติดตั้งและการขอจดแจ้ง ยกเว้นไม่ต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงานกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (ดูรายละเอียดเพิ่มเติม www.erc.or.th)
  • แจ้ง กฟน. กฟภ. ตรวจสอบระบบและเชื่อมต่อระบบ
ข้อแนะนำ : โดยทั่วไปผู้ให้บริการติดตั้งจะช่วยดำเนินการเรื่องการขออนุญาตต่างๆ ให้ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้รับบริการ


ที่มา: https://www.thaipbs.or.th/news/content/326950
กลับ